บันทึกการเรียนรู้ครั้งที่
8 วันศุกร์ที่ 3 มีนาคม
พ.ศ.2560
เนื้อหาที่เรียน
ประเภทของเด็กที่มีความต้องการพิเศษ
6. เด็กที่มีความบกพร่องทางการเรียนรู้ (Children with Learning
Disabilities)
-เรียกย่อ ๆ ว่า L.D.
(Learning Disability)
-เด็กที่มีปัญหาทางการเรียนรู้เฉพาะอย่าง
-ไม่นับรวมเด็กที่มีปัญหาเพียงเล็กน้อยทางการเรียน
เด็กที่มีปัญหาเนื่องจากความพิการ หรือความบกพร่องทางร่างกาย
สาเหตุของ LD
-ความผิดปกติของการทำงานของสมองที่ไม่สามารถถอดรหัสตัวอักษรออกมาได้
(เชื่อมโยงภาพ ตัวอักษรเข้ากับเสียงไม่ได้)
-กรรมพันธุ์
1.ด้านการอ่าน (Reading Disorder)
-หนังสือช้า ต้องสะกดทีละคำ
-อ่านออกเสียงไม่ชัด ออกเสียงผิด
หรืออาจข้ามคำที่อ่านไม่ได้ไปเลย
- ไม่เข้าใจเนื้อหาที่อ่าน หรือจับใจความสำคัญไม่ได้
ลักษณะของเด็ก LD ด้านการอ่าน
• อ่านช้า อ่านคำต่อคำ ต้องสะกดคำจึงจะอ่านได้
• อ่านออกเสียงไม่ชัดเจน
• เดาคำเวลาอ่าน
• อ่านข้าม อ่านเพิ่มคำ อ่านผิดประโยคหรือผิดตำแหน่ง
• อ่านโดยไม่เน้นคำ หรือเน้นข้อความบางตอน
• ผันเสียงวรรณยุกต์ไม่ได้
• ไม่รู้ความหมายของเรื่องที่อ่าน
• เล่าเรื่องที่อ่านไม่ได้ จับใจความสำคัญไม่ได้
2. ด้านการเขียน (Writing Disorder)
-เขียนตัวหนังสือผิด
สับสนเรื่องการม้วนหัวอักษร เช่น จาก ม เป็น น หรือจาก ภ เป็น ถ เป็นต้น
-เขียนตามการออกเสียง เช่น ประเภท
เขียนเป็น ประเพด
-เขียนสลับ เช่น สถิติ เขียนเป็น สติถิ
ลักษณะของเด็ก LD ด้านการเขียน
• ลากเส้นวนๆ ไม่รู้ว่าจะม้วนหัวเข้าในหรือออกนอก ขีดวนๆ
ซ้ำๆ
• เรียงลำดับอักษรผิด เช่น สถิติ เป็น สติถิ
• เขียนพยัญชนะหรือตัวเลขสลับกัน
เช่น ม-น, ภ-ถ, ด-ค, พ-ผ, b-d,
p-q, 6-9
• เขียนพยัญชนะ ก-ฮ ไม่ได้ แต่บอกให้เขียนเป็นตัวๆได้
• เขียนพยัญชนะ หรือ ตัวเลขกลับด้าน คล้ายมองจากกระจกเงา
• เขียนคำตามตัวสะกด เช่น เกษตร เป็น กะเสด
•
จับดินสอหรือปากกาแน่นมาก
•
สะกดคำผิด
โดยเฉพาะคำพ้องเสียง ตัวสะกดแม่เดียวกัน ตัวการันต์
•
เขียนหนังสือช้าเพราะกลัวสะกดผิด
•
เขียนไม่ตรงบรรทัด
ขนาดตัวอักษรไม่เท่ากัน ไม่เว้นขอบ ไม่เว้นช่องไฟ
• ลบบ่อยๆ เขียนทับคำเดิมหลายครั้ง
3.
ด้านการคิดคำนวณ (Mathematic Disorder)
-ตัวเลขผิดลำดับ
-ไม่เข้าใจเรื่องการทดเลขหรือการยืมเลขเวลาทำการบวกหรือลบ
-ไม่เข้าหลักเลขหน่วย สิบ ร้อย
-แก้โจทย์ปัญหาเลขไม่ได้
ลักษณะของเด็ก LD ด้านการคำนวณ
• ไม่เข้าใจค่าของตัวเลขเช่นหลักหน่วยสิบร้อยพันหมื่นเป็นเท่าใด
• นับเลขไปข้างหน้าหรือถอยหลังไม่ได้
• คำนวณบวกลบคูณหารโดยการนับนิ้ว
• จำสูตรคูณไม่ได้
• เขียนเลขกลับกันเช่น13เป็น31
• ทดไม่เป็นหรือยืมไม่เป็น
• ตีโจทย์เลขไม่ออก
• คำนวณเลขจากซ้ายไปขวาแทนที่จะทำจากขวาไปซ้าย
• ไม่เข้าใจเรื่องเวลา
4. หลายๆ ด้านร่วมกัน
อาการที่มักเกิดร่วมกับ LD
-แยกแยะขนาดสีและรูปร่างไม่ออก
-มีปัญหาความเข้าใจเกี่ยวกับเวลา
-เขียน/อ่านตัวอักษรสลับซ้าย-ขวา
-งุ่มง่ามการประสานงานของกล้ามเนื้อไม่ดี
-การประสานงานของสายตา-กล้ามเนื้อไม่ดี
-สมาธิไม่ดี (เด็ก LD ร้อยละ 15-20 มีสมาธิสั้น ADHD ร่วมด้วย)
-เขียนตามแบบไม่ค่อยได้
-ทำงานช้า
-การวางแผนงานและจัดระบบไม่ดี
-ฟังคำสั่งสับสน
-คิดแบบนามธรรมหรือคิดแก้ปัญหาไม่ค่อยดี
-ความคิดสับสนไม่เป็นขั้นตอน
-ความจำระยะสั้น/ยาวไม่ดี
-ถนัดซ้ายหรือถนัดทั้งซ้ายและขวา
-ทำงานสับสนไม่เป็นขั้นตอน
7. ออทิสติก (Autistic)
-หรือ ออทิซึ่ม (Autism)
-เด็กที่ไม่สามารถมีปฏิสัมพันธ์กับผู้อื่น
-ไม่สามารถเข้าใจคำพูด
ความรู้สึกและความต้องการของผู้อื่น
-ไม่สามารถที่จะสื่อสารกับคนรอบข้างและสังคม
-เด็กออทิสติกแต่ละคนจะมีเอกลักษณ์ของตนเอง
-ติดตัวเด็กไปตลอดชีวิต
"ไม่สบตา
ไม่พาที ไม่ชี้นิ้ว"
-ทักษะภาษา
-ทักษะทางสังคม
-ทักษะการเคลื่อนไหว
-ทักษะการรับรู้เกี่ยวกับรูปทรง
ขนาดและพื้นที่
ลักษณะของเด็กออทิสติก
• อยู่ในโลกของตนเอง
• ไม่เข้าไปหาใครเพื่อให้ปลอบใจ
• ไม่เข้าไปเล่นในกลุ่มเพื่อน
• ไม่ยอมพูด
• เคลื่อนไหวแบบซ้ำๆ
เกณฑ์การวินิจฉัยออทิสติก
องค์การอนามัยโลกและสมาคมจิตแพทย์อเมริกา
ความผิดปกติของปฏิสัมพันธ์ทางสังคมอย่างน้อย
2 ข้อ
–
ไม่สามารถใช้ภาษาท่าทางสื่อสารทางสังคมกับบุคคลอื่น
–
ไม่สามารถสร้างสัมพันธภาพกับบุคคลให้เหมาะสมตามวัย
–
ขาดความสามารถในการแสวงหาการมีกิจกรรม
ความสนใจ และความสนุก สนานร่วมกับผู้อื่น
–
ขาดทักษะการสื่อสารทางสังคมและทางอารมณ์กับบุคคลอื่น
ความผิดปกติด้านการสื่อสารอย่างน้อย
1 ข้อ
–
มีความล่าช้าหรือไม่มีการพัฒนาในด้านภาษาพูด
–
ในรายที่สามารถพูดได้แล้วแต่ไม่สามารถที่จะเริ่มต้นบทสนทนาหรือโต้ตอบบทสนทนากับผู้อื่นได้อย่างเหมาะสม
–
พูดซ้ำๆ
หรือมีรูปแบบจำกัดในการใช้ภาษา
เพื่อสื่อสารหรือส่งเสียงไม่เป็นภาษาอย่างไม่เหมาะสม
–
ไม่สามารถเล่นสมมุติหรือเล่นลอกตามจินตนาการได้เหมาะสมกับระดับพัฒนาการ
มีพฤติกรรม
ความสนใจ และกิจกรรมที่ซ้ำๆ และจำกัด อย่างน้อย 1 ข้อ
–
มีความสนใจที่ซ้ำๆ
อย่างผิดปกติ
–
มีกิจวัตรประจำวันหรือกฎเกณฑ์ที่ต้องทำโดยไม่สามารถยืดหยุ่นได้
ถึงแม้ว่ากิจวัตรหรือกฎเกณฑ์นั้นจะไม่มีประโยชน์
–
มีการเคลื่อนไหวร่างกายซ้ำๆ
–
สนใจเพียงบางส่วนของวัตถุ
พฤติกรมการทำซ้ำ
• นั่งเคาะโต๊ะ หรือโบกมือนานเป็นชั่วโมง
• นั่งโยกหน้าโยกหลังเป็นเวลานาน
• วิ่งเข้าห้องนี้ไปห้องโน้น
• ไม่ยอมให้เปลี่ยนสิ่งแวดล้อม
พบความผิดปกติอย่างน้อย
1 ด้าน (ก่อนอายุ 3 ขวบ)
–
ปฏิสัมพันธ์ทางสังคม
–
การใช้ภาษาเพื่อสื่อความหมาย
–
การเล่นสมมติหรือการเล่นตามจินตนาการ
-ไม่สามารถวินิจฉัยให้เข้าข่ายโรคใดๆได้
ออทิสติกเทียม
-ปล่อยให้เป็นพี่เลี้ยงดูแลหรืออยู่กับผู้สูงอายุ
-ปล่อยให้ลูกอยู่กับไอแพด
-ดูการ์ตูนในทีวี
Autistic
Savant
-กลุ่มที่คิดด้วยภาพ (visual
thinker)
จะใช้การการคิดแบบอุปนัย (bottom up thinking)
-กลุ่มที่คิดโดยไม่ใช้ภาพ (music,
math and memory thinker)
จะใช้การคิดแบบนิรนัย (top down thinking)
ประเมินตนเอง
: การเรียนในวันนี้ได้ตั้งใจฟังในสิ่งที่อาจารย์สอนคอยจดบันทึกสิ่งที่เรียนทำความเข้าใจในสิ่งที่อาจารย์สอนให้มากที่สุดรู้สึกสนุกที่อาจารย์นำกิจกรรมมาให้ทำภายในห้องชอบในสิ่งที่อาจารย์สอน
ประเมินเพื่อน
: เพื่อนๆทุกคนให้ความร่วมมือในการเรียนในวันนี้อาจารย์ให้เพื่อนออกไปทำกิจกรรมหน้าชั้นเรียนเพื่อนๆก็คอยให้ความร่วมมืออย่างเต็มที่และสนุกกับกิจกรรมที่อาจารย์ให้ทำเสมอ
ประเมินอาจารย์
: อาจารย์สอนแล้วเข้าใจง่ายสรุปใจความสำคัญในการเรียนให้นักศึกษาเข้าใจได้มากที่สุดสอนพูดคุยและยกตัวอย่างให้ได้เห็นภาพที่ชัดเจนมีกิจกรรมที่ให้นักศึกษาได้ทำภายในชั้นเรียนจนไม่น่าเบื่อเกินไป
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น